ในปัจจุบัน การใช้แป้งพัฟที่ช่วยในการปกปิดรอยสิว จุดด่างดำ และความหมองคล้ำบนใบหน้านั้น จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ หลายคน ที่ต้องออกไปใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้าน แต่การเลือกแป้งพัฟที่ช่วยในการปกปิดได้ดี อีกทั้งยังต้องมีสีที่กลืนกินไปกับผิวเดิม ไม่คล้ำหรือขาวจนเกินไปนั้น คงจะเป็นเรื่องยากไปสักหน่อย สำหรับสาวๆมือใหม่ เพราะคนเรามีผิวหลายเฉดสี แป้งพัฟในท้องตลาดก็มีหลากสีต่างกันไปเช่นกัน เพื่อช่วยให้สาว ๆ หมดห่วงกับปัญหานี้ ทางพอดีบล็อกจึงขอเอาวิธีเลือกแป้งพัฟ ให้เข้ากับสีผิวมาฝากกันค่ะ
มารู้จัก โทนสีผิว ที่แท้จริงของเรากันก่อน
เพื่อเป็นตัวช่วยในการ เลือกหาสีแป้งพัฟให้เข้ากับผิวของสาว ๆ ได้อีกทาง หากสาว ๆ รู้จักอันเดอร์โทนสีผิว ที่แท้จริงของตัวเองแล้ว ก็จะช่วยให้เลือกสีแป้งพัฟได้ง่ายขึ้น โดยอันเดอร์โทนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดชีวิต ต่างจากสีผิวที่มีขาวขึ้น หรือคล้ำขึ้นอยู่เรื่อย ๆ เราสามารถรู้จักอันเดอร์โทนที่แท้จริงของเราได้ จากเส้นเลือดบนข้อมือ ลองไปที่ที่มีแสงส่องถึงหรือนั่งใต้หลอดไฟที่ให้แสงสีขาว แล้วมองไปที่ข้อมือจะเห็นว่ามีเส้นเลือดอยู่ ซึ่งเส้นเลือดแต่ละคนจะมีสีที่ต่างกันดังนี้
- เส้นเลือดบนข้อมือ มีสีเขียว แสดงว่าเป็นคนที่มีอันเดอร์โทน ผิวเหลือง พบในส่วนมากของ ทางคนเอเชีย
- เส้นเลือดบนข้อมือ มีสีฟ้าหรือม่วง แสดงว่าเป็นคนที่มีอันเดอร์โทน ผิวชมพู พบในส่วนมากของ ทางคนยุโรป
- เส้นเลือดบนข้อมือ ผสมระหว่างสีฟ้า และเขียวดูแล้วแยกไม่ออก แสดงว่าเป็นคนที่มีอันเดอร์โทน ผิวแบบกลางๆ หรือโทน ผิวธรรมชาติ
เอาล่ะหลังจากที่สาว ๆ ได้โทนสีผิวของตัวเองกันแล้ว ต่อไปเรามาดูวิธีการ เลือกสีแป้งพัฟ ให้เหมาะสมกับสีผิวเรากันดีกว่าค่ะ
5 วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว
1. เลือกสีแป้งตามอันเดอร์โทนผิว
อย่างที่บอกกับสาว ๆ ไปแล้วช่วงต้น ว่ามีวิธีสังเกตอันเดอร์โทน ของเราได้อย่างไร การเลือกแป้งพัฟ หรือรองพื้นก็ควรเลือกตาม อันเดอร์โทนของเราด้วย หากเรามีผิวอันเดอร์โทนเหลือง ก็ควรใช้แป้งที่ออกไปทางเหลือง หากมีอันเดอร์โทนสีชมพู ก็ควรเลือกแป้งที่ออกสีอมชมพู แต่สำหรับคนที่มี อันเดอร์โทนสีกลาง ๆ อาจเลือกยากสักหน่อย เนื่องจากสามารถใช้ได้ทั้ง สีชมพู และเหลือง ต้องดูสีผิวโดยรวมอีกที ว่าใช้แป้งพัฟโทนสีไหน ถึงเข้ากับผิวมากที่สุด
2. ควรทดสอบ สีแป้งกับผิวหน้าเราโดยตรง
ข้อผิดพลาดที่สาว ๆ หลายคนมักจะทำ เมื่อต้องลองทดสอบสีแป้ง คือการทาลงไปบนข้อมือ เพราะเข้าใจว่าสีข้อมือใกล้เคียงกับผิวหน้ามากที่สุด แต่ความจริงแล้วสีผิวบนใบหน้าของเราแตกต่างจากผิวส่วนอื่นอย่างสิ้นเชิง ลองยกมือขึ้นมาเทียบกับใบหน้าเราดู จะรู้ทันทีว่าสีผิวที่ข้อมือ กับใบหน้ามีความต่างกันมาก คราวหน้าหากต้องการ เลือกสีรองพื้นที่ถูกต้อง ควรลองกับผิวหน้าโดยตรง ให้ลองนำแป้งพัฟตัวทดลองปาด บริเวณกรอบของใบหน้า เช่น บริเวณกราม เป็นต้น เพื่อดูว่าสีของแป้งพัฟที่กำลังลองนั้น เข้ากับใบหน้า และลำคอของเรารึเปล่า
- แป้งพัฟ สำหรับคนสีผิวขาวเหลือง : ควรลองแป้งพัฟที่มีสีออกไปทางเหลืองดูก่อน หากเข้ากันกับหน้าพอดีก็ไม่ต้องเปลี่ยน แต่หากใช้แล้วหน้าดูเหลืองซีดเกินไป ควรหาแป้งพัฟที่มีสีผสมเหลืองออกโทนชมพูขึ้นมาสักนิด เพื่อแก้ความเหลืองของผิวหน้า
- แป้งพัฟ สำหรับคนสีผิวขาวมาก : คนที่มีผิวขาวมากหากใช้แป้งเบอร์ขาวไปเลย อาจทำให้ได้ผิวที่ขาวซีดดูสุขภาพไม่ดี ควรเลือกใช้รองพื้น ที่มีสีดรอปกว่าหน้าสักหนึ่งเบอร์ จะเป็นโทนเหลือง หรือโทนชมพูขึ้นอยู่กับ อันเดอร์โทนของเรา
- แป้งพัฟ สำหรับคนผิวสองสีใช้ : วิธีการเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับ สีผิวของคนผิวสองสี ดูจะเป็นเรื่องยากสักนิดหากใช้ เครื่องสำอางแบรนด์ไทย เนื่องจากมีการผลิตเฉดสี ออกมาน้อยมาก ควรมองแป้งพัฟจากเเบรนด์ต่างประเทศ เป็นตัวเลือกแรก ๆ ก่อน อีกทั้งคนที่มีผิวสองสีควรเลือก แป้งเบอร์ที่ขาวกว่าผิวหน้าจริงสัก 1 เฉด จะช่วยปรับสีผิวให้ไม่ดรอประหว่างวันได้
3. ลองใช้แป้งกับแสงธรรมชาติ และแสงไฟนีออน
สีของแป้งนั้นมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เมื่ออยู่ภายใต้แสงที่ต่างกันออกไป บางครั้งเมื่ออยู่ใต้แสงไฟ สีของแป้งอาจดูกลมกลืนไปกับผิว จนเราคิดว่าแป้งสีนี้เหมาะกับเราที่สุดแล้ว หากเราลองไปยืนท่ามกลางแสงธรรมชาติตอนกลางวัน สีแป้งนั้นอาจเด่นลอยเกินไปก็ได้ เนื่องจากอุณหภูมิของแสงมีผลโดยตรงกับสีผิวของเรา ที่สะท้อนออกมาการทดลองใช้แป้งตามสภาวะแสงต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเมื่อลองแล้วอย่าพึ่งรีบตัดสินใจซื้อ ให้ลองออกไปเดินเล่น ในสถานที่แสงแตกต่างกันดู สัก 30 นาที หรือ 1 ชม. แล้วลองส่องกระจก ดูความเปลี่ยนแปลงตามสภาพแสงต่างๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือก สีแป้งได้ดีขึ้น
4. เลือกสีแป้งพัฟให้เข้ากันกับ สีครีมรองพื้น
นอกจากสีแป้งพัฟ จะต้องเข้ากับสีผิวเราแล้วที่สำคัญ ยังต้องเข้ากันกับสีครีมรองพื้นของเราด้วย หากเลือกสีแป้งพัฟที่สว่างกว่า สีครีมรองพื้นจะทำให้ดูหน้าเทา และหากเลือกสีแป้งพัฟที่คล้ำกว่าสีครีมรองพื้น ผลลัพธ์ที่ออกมาหน้าจะดูหมอง และดรอปไปเลยทันที ดังนั้นหากสาว ๆ มี ครีมรองพื้นที่ใช้อยู่แล้ว แล้วควรใช้สีครีมรองพื้นเดิมมาตัดสินใจ ว่าควรใช้แป้งพัฟสีอะไรด้วยจะดีที่สุด
5. สอบถามกับ B.A. ประจำเคาน์เตอร์โดยตรง
โดยปกติเครื่องสำอางแต่ละแบรนด์จะมี B.A.ที่ผ่านการฝึกมาโดยตรงเรื่อง เครื่องสำอางอยู่แล้ว อีกทั้งชื่อเรียกของแป้งพัฟแต่ละแบรนด์ ก็มีชื่อที่ต่างกันออกไป ถึงแม้จะมีโทนสีเดียวกันก็ตาม ดังนั้นเพื่อความแน่ใจทุกครั้งที่ซื้อแป้งพัฟ ควรสอบถามกับ B.A. โดยของแบรนด์นั้น ๆ ตรงจะดีที่สุด
การเลือกแป้งพัฟ หรือรองพื้นมีปัจจัยหลายอย่าง เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสีผิว แสงในสถานที่ต่าง ๆ ความหมอง ความดรอประหว่างวัน แต่หากได้เลือกหาแป้งพัฟที่เหมาะกับเรา จนเจอแล้ว คงจะรู้สึกดีเหมือนเจอเพื่อนคู่ใจเลยทีเดียว เพราะไม่ต้องคอยกังวล เรื่องการซื้อแป้งพัฟ ในครั้งถัดไปอีกเลย ขอเพียงแค่ยอมเสียเวลาค้นหา สีผิว และทดลองใช้แป้งพัฟ แบบจริง ๆ จัง ๆ สักครั้งก็พอ เพราะครั้งหน้าหากเกิดสาว ๆ อยากจะเปลี่ยนแบรนด์ หรือลองเปลี่ยนรุ่น ก็จะมีเบอร์สี ที่อยู่ในใจของสาว ๆ แล้ว ทำให้การเลือกซื้อครั้งถัดไปนั้นง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
women.kapook.com
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
แท็ก :
บทความที่น่าสนใจ